สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด

วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๔ นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายสุรชัย นพไธสง ปศุสัตว์อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตลาดนัดโค-กระบือ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเปิดทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ เพื่อตรวจสุขภาพโค-กระบือ ที่เกษตรกรนำเข้ามาซื้อขาย และเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ โดยตลาดนัดแห่งนี้มีเกษตรกรนำโค-กระบือเข้ามาซื้อขาย ประมาณ ๘๐๐-๙๐๐ ตัวต่อสัปดาห์ มีเงินหมุนเวียนสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า ๒๐ ล้านบาท  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะและตัวสัตว์ที่เข้า-ออกตลาดนัดโค-กระบือ รวมทั้งพื้นที่บริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อโรค โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อย โรคคอบวม รวมทั้งโรคลัมปี สกิน ที่มีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะ ทำให้โค-กระบือของเกษตรกรเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต เพราะตลาดนัดโค-กระบือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายสัตว์จากหลายแหล่งมารวมกัน จึงมีโอกาสนำสัตว์ป่วย นำแมลงดูดเลือด หรือสัตว์ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการเข้ามา หรือมีเชื้อโรคปนเปื้อนมากับยานพาหนะในการขนส่ง  ซึ่งปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ดได้ขอความร่วมมือจากพ่อค้าและเกษตรกรที่ประสงค์เคลื่อนย้ายสัตว์ให้ขออนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์จากปศุสัตว์อำเภอต้นทางทุกครั้ง การเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.๒๕๕๘ กำหนดโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.

วันที่ 25 มีนาคม 2564 นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยทีมเฉพาะกิจสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 และด่านกักกันสัตว์มหาสารคาม ลงพื้นที่เป็นวันที่สาม เพื่อสอบสวนโรคที่มีอาการคล้าย ลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ตลอดจนการรักษาสัตว์เจ็บป่วย การเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโรคทางห้องปฏิบัติการ และการสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเจ้าของสัตว์ ในพื้นที่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยในพื้นที่ได้ตรวจพบโคเนื้อมีผิวหนังเป็นตุ่มก้อนกระจายทั่วลำตัว ต่อมน้ำเหลืองโตนูน มีลักษณะขอบแข็ง เมื่อตุ่มแตกจะเกิดป็นแผลและตกสะเก็ด ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าเป็นโรคนี้จริงจะสามารถแพร่ติดต่อกันได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสะเก็ดแผล น้ำมูก น้ำลาย และแมลงดูดเลือด เช่น เห็บ เหา ริ้น ไร แมลงวันดูดเลือด ฯลฯ แต่จะไม่ติดต่อสู่คน .

วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๔ นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่อำเภอโพนทองติดตามการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดสัตว์ โดยเข้าตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เพื่อสอบถามข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ และสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และโรคผิวหนังที่มีอาการคล้ายลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ในโคเนื้อ รวมทั้งการสร้างความรับรู้สร้างความรู้แก่เกษตรกรเจ้าของสัตว์ ตลอดจนได้ให้คำแนะนำด้านการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) ในพื้นที่ตำบลคำนาดี อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ติดตามเฝ้าระวังค้นหาสัตว์ปีกและสุกรป่วยตายผิดปกติตามนิยามของโรคไข้หวัดนกและโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือจากเกษตรกรเจ้าของสัตว์อย่าปกปิดข้อมูล หากพบว่ามีสัตว์ป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที.

วันที่ 24 มีนาคม 2564 นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยทีมเฉพาะกิจสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 และด่านกักกันสัตว์มหาสารคาม ลงพื้นที่เป็นวันที่สอง เพื่อสอบสวนโรคที่มีอาการคล้าย ลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ตลอดจนการรักษาสัตว์เจ็บป่วย การเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโรคทางห้องปฏิบัติการ และการสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเจ้าของสัตว์ ในพื้นที่อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยในพื้นที่ได้ตรวจพบโคเนื้อมีผิวหนังเป็นตุ่มก้อนกระจายทั่วลำตัว ต่อมน้ำเหลืองโตนูน มีลักษณะขอบแข็ง เมื่อตุ่มแตกจะเกิดป็นแผลและตกสะเก็ด สามารถแพร่ติดต่อกันได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสะเก็ดแผล น้ำมูก น้ำลาย และแมลงดูดเลือด เช่น เห็บ เหา ริ้น ไร แมลงวันดูดเลือด ฯลฯ โรคนี้ไม่ติดต่อสู่คน ทั้งนี้ มีนายสัตวแพทย์จากสำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ จำนวน ๔ นาย ร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่.