สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด

วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับ สจ.ถาวร ตรีบุญเมือง ลงพื้นที่ประชุมชี้แจงสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ตลอดจนแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ให้กับผู้นำท้องที่และเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ตำบลโหรา ได้รับทราบ ณ ที่ทำการกำนันตำบลโหรา หมู่ 14 ตำบลโหรา อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมมอบเวชภัณฑ์กำจัดแมลงดูดเลือดพาหะนำโรคLSD ที่ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.ร้อยเอ็ด.

วันที่ 24 พฤษภาคม 2564  นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการรับมอบเวชภัณฑ์กำจัดแมลงดูดเลือดโค-กระบือ จำนวน 1,110 ขวด หรือ 555 ลิตร มูลค่ากว่า 500,000 บาทระหว่างนายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์ร้อยเอ็ด เป็นผู้รับมอบและดร.เอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้มอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดผ่านเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ 20 อำเภอ  ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด.

วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงาน และนักเรียน นักศึกษา จัดกิจกรรมเชิญชวนการดื่มนมเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในโอกาสวันที่ 1 มิถุนายน 2564 วันดื่มนมโลก ภายใต้แนวคิด '' สร้างความสุข เสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มนมทุกวัน ดื่มได้ทุกวัย บริโภคนมได้หลากหลายเมนู "  ณ บริเวณหน้าสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด.

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในการออกประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้-สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เจ้าของสัตว์ มิให้ตื่นตระหนก และขอความร่วมมือเฝ้าระวังป้องกันโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease : LSD) หรือโรคที่ชาวบ้านเรียกโรคผิวหนังวัว หรืออีสุกอีใสวัว เพื่อลดความสูญเสีย เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่และเป็นครั้งแรกที่พบในประเทศไทย  ณ บ้านดงเกลือ ตำบลคูเมือง อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด โรคนี้มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน มีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค เช่น เห็บ เหา ยุง เหลือบ ริ้น และแมลงวัน เป็นต้น และสามารถติดต่อโดยตรงทางการสัมผัสสัตว์ป่วย อาการที่สังเกตได้คือ พบตุ่ม (Nodule) ขึ้นบริเวณผิวหนังทั่วร่างกาย ตุ่มมีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีขอบแข็ง จำนวนมากน้อยแตกต่างกัน ต่อมาจะตกสะเก็ดลอกหลุดเป็นแผลหลุม บางตัวอาจมีน้ำลายไหล มีไข้ หายใจลำบาก ตาและข้ออักเสบ อัตราการป่วยสูง 5-45 % แต่อัตราการตายน้อยกว่า 10 % ส่วนมากเป็นลูกสัตว์หรือสัตว์ที่มีสุขภาพอ่อนแอ ไม่มียารักษาเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง จึงให้แยกสัตว์ป่วยออกจากฝูง แล้วให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดการอักเสบ ยาลดไข้  ยาทาแผล และให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน สำหรับการป้องกันทำได้โดยงดการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือสัตว์ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การกางมุ้งให้สัตว์เพื่อป้องกันแมลงดูดเลือด ใช้ยากำจัดแมลงดูดเลือดหรือสารไล่แมลงเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในพื้นที่โดยรอบ ทำความสะอาดคอกสัตว์และเก็บกวาดมูลสัตว์อย่างสม่ำเสมอจะลดการสะสมของเชื้อ ในปัจจุบันบ้านเรายังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกัน ยังอยู่ในขั้นตอนการเร่งรัดนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ จึงขอให้เจ้าของสัตว์เฝ้าระวังติดตามอาการของสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด เมื่อพบอาการต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่เพื่อขอคำแนะนำในการรักษาและควบคุมโรคต่อไป.